ท่านั่งขับรถยนต์มีผลต่อความปลอดภัย

การขับรถยนต์ให้ปลอดภัย นอกจากผู้ขับต้องมีความชำนาญแล้ว ท่าทางในการขับ ก็มีความสำคัญ เช่นกัน เพราะมีส่วนเพิ่ม หรือลดประสิทธิภาพในการควบคุมรถยนต์
 
การปรับตำแหน่งเบาะ
เบาะนั่งที่ดี ควรปรับได้อย่างน้อย 3 จุด คือ
ระยะของเบาะนั่ง
มุมเอียงของพนักพิง
และระดับสูง-ต่ำของหมอนรองศีรษะ
 
ส่วนการปรับระดับสูง-ต่ำของเบาะนั่ง
มุมเอียงของหมอนรองศีรษะและพนักพิง ช่วยให้ผู้ขับมีความสะดวกสบายมากขึ้น
 
การปรับเบาะนั่ง ให้ได้ระยะที่เหมาะสม สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา ทำได้โดยใช้ฝ่าเท้าซ้ายเหยียบแป้นคลัตช์ให้สุด (อย่าใช้ปลายเท้าเหยียบคลัตช์) จากนั้นเลื่อนเบาะให้หัวเข่าซ้ายงอเล็กน้อย
 
สำหรับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ซึ่งไม่มีแป้นคลัตช์ให้ใช้เท้าซ้าย เหยียบลงบนแป้นพักเท้าหรือพื้นรถยนต์และใช้ฝ่าเท้าขวาเหยียบแป้นเบรก จากนั้นเลื่อนเบาะให้หัวเข่าขวางอเล็กน้อย
 
การปรับมุมเอียงของพนักพิง
ให้ใช้มือซ้าย-ขวาจับพวงมาลัย ที่ตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกา หรือ 10 และ 2 นาฬิกาและปรับตำแหน่งพนักพิงเอไปด้านหลัง กระทั่งข้อศอกทั้ง 2 ข้าง หย่อนเล็กน้อยลองเลื่อนมือไปจับพวงมาลัยในตำแหน่ง 12 นาฬิกา แขนต้องเกือบเหยียดตึงโดยไม่ต้องโยกตัวขึ้นมาหรือแบบมือพาดลงไป วงพวงมาลัยต้องอยู่บริเวณข้อมือจึงจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการขับมากที่สุด
 
หมอนรองศีรษะไม่ได้มีไว้ให้หนุนขณะขับ
แต่ช่วยลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ หากเกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะการถูกชนท้ายที่ศีรษะจะสะบัดไปด้านหลังการปรับระดับของหมอนรองศีรษะที่เหมาะสม ควรปรับให้ขอบบนของหมอนรองศีรษะอยู่ระดับใบหูด้านบนถ้าหมอนรองศีรษะสามารถปรับระดับมุมเอียงได้ควรปรับให้ใกล้ศีรษะมากที่สุด เพื่อลดการสะบัดของศีรษะเมื่อถูกชนท้าย
 
การปรับตำแหน่งพวงมาลัย
รถยนต์ส่วนใหญ่ที่พวงมาลัยสามารถปรับได้ มักเป็นการปรับระดับสูง-ต่ำไม่ควรปรับไว้ต่ำเกินไปจนส่วนล่างของวงพวงมาลัยติดกับต้นขา
 
รถยนต์ราคาแพงบางรุ่น พวงมาลัยสามารถปรับระยะใกล้-ไกลได้ด้วยไม่ควรปรับไว้ไกลเกินไปจนต้องเหยียดแขนตึงเพราะอาจเกิดความเมื่อยล้าและลดความฉับไวในการบังคับทิศทางหรือใกล้เกินไป เพราะอาจได้รับอันตราย เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
 
การปรับมุมกระจกมองข้าง และกระจกมองหลัง
กระจกมองข้างซ้าย-ขวา ส่วนใหญ่สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง คือ บน-ล่าง และซ้าย-ขวา
การปรับ ไม่ควรให้เห็นตัวถังด้านข้างมากเกินไปเพราะจะเป็นการลดมุมมองด้านข้าง
และควรปรับให้เป็นแนวขนาน ไม่ก้มหรือเงยมากเกินไป
 
ส่วนกระจกมองหลัง ควรปรับให้เห็นด้านหลังให้มากที่สุด
และเอียงไปเห็นพื้นที่ด้านซ้ายของรถยนต์ด้วยโดยเมื่อนั่งในท่าปกติแล้วมองกระจกมองหลัง ไม่ควรเห็นศีรษะของผู้ขับ
 
ท่านั่ง
การปรับตำแหน่งเบาะนั่งที่เหมาะสมจะหมดความสำคัญ ถ้าผู้ขับนั่งในลักษณะที่ไม่ถูกต้องผู้ขับหลายคน ปรับเบาะได้ถูกต้องแล้ว แต่พยายามโยกตัวมาด้านหน้า เพื่อให้มองเห็นปลายของฝากระโปรงหน้าหรือวัยรุ่นที่ชอบปรับเบาะให้เอนมากๆ แล้วชะโงกตัวขึ้นมาโหนพวงมาลัยแผ่นหลังจึงไม่สัมผัสพนักพิงอย่างเต็มที่ ทำให้สูญเสียความฉับไว และแม่นยำในการควบคุมรถยนต์เมื่อจะมองกระจกมองข้างและกระจกส่องหลัง ก็ต้องเบนแนวสายตามากขึ้น
รวมทั้งเกิดความเมื่อยล้า เมื่อนั่งเป็นเวลานาน
 
ที่ถูกต้อง ตลอดการขับ
แผ่นหลังต้องพิงพนักเต็มที่ แม้จะมองไม่เห็นปลายของฝากระโปรงหน้าก็ตามเพราะรถยนต์ยุคใหม่มักออกแบบฝากระโปรงหน้าให้ลาดเทเพื่อผลทางหลักอากาศพลศาสตร์ ชะโงกอย่างไรก็เห็นได้ยาก
 
ที่มา เดลินิวส์

ค้นหาบทความ